The Gray Man (2022) ล่องหนฆ่า

The Gray Man (2022) ล่องหนฆ่า

ดูหนัง The Gray Man (2022) ล่องหนฆ่า ชายล่องหนคืออดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอคอร์ท เจนทรี่ (ไรอัน กอสลิง) หรือเซียร่าซิกซ์ โดนัลด์ ฟิตซรอย (บิลลี่ บ็อบ ธอร์นตัน) อดีตหัวหน้าเป็นผู้ดึงตัวคอร์ทจากเรือนจำกลางมาร่วมงานด้วย เขาเคยเป็นนักฆ่ามือฉมังที่หน่วยงานส่งไปปฏิบัติภารกิจ ทว่าตอนนี้สถานการณ์กลับพลิกผัน ซิกซ์ตกเป็นเป้าสังหารและถูกไล่ล่าตัวไปทั่วโลกจากการสั่งการของลอยด์ แฮนเซ่น (คริส อีแวนส์) อดีตเพื่อนร่วมงานที่ซีไอเอผู้พยายามทุกวิถีทางที่จะกำจัดเขาให้ได้ แต่เจ้าหน้าที่ดานี่ มิแรนด้า (อนา เดอ อาร์มาส) จะคอยให้ความช่วยเหลือในยามที่เขาต้องการ

ถึงแม้ตัวหนังจะอิงจากนิยายขายดิบขายดีเป็นเทน้ำเทท่าชื่อเดียวกันในปี 2009 ที่สร้างชื่อให้ มาร์ก เกรียนีย์ (Mark Greaney) แจ้งกำเนิดจนถึงเปลี่ยนเป็นคนเขียนแนวสายผู้ได้รับไม้แม้กระทั่งตกทอดตำนานของปรมาจารย์อย่าง ทอม แคลุกลี้ลุกลนซี (Tom Clancy) ในเวลาถัดมา แต่ว่ากว่ามันจะถูกดัดแปลงแก้ไขมาสู่หนังก็ผ่านมาถึงหนึ่งรอบดาว แน่ๆว่าพล็อตหรือมุกอะไรๆก็คงจะไม่สดใหม่อีกต่อไปแล้ว ว่ากันตามจริงดูตัวอย่างหนังก็แทบจะเข้าใจทั้งปวงแล้วด้วย แต่ว่าก็จำเป็นต้องเห็นด้วยว่าเรื่องราวของสายมือสังหารไม่มีนามที่ถูกลบเรื่องราวเหลือแค่จำนวนเป็นชื่อแทนตัว มันก็มีเสน่ห์มาเสมอล่ะนะ

ยิ่งเมื่อเน็ตฟลิกซ์ทุ่มทุนสร้างกว่า 200 ล้านดอลลาร์มากมายสุดที่เคยทำมา  The Gray Man โดยดึงกลุ่มผู้ผลิตคิวทองคำจาก ‘Avengers: Endgame’ อย่างสองญาติ แอนโธนี รวมทั้ง โจ รุสโซ (Anthony and Joe Russo) มากำกับ ถึงแม้ผลงานก่อนหน้าของพวกเขาทั้งสองอย่าง ‘Cherry’ (2021) ที่ขนาดได้ ทอม ฮอลแลนด์ (Tom Holland) ผู้แสดงนำชายจากหนัง ‘Spider-man: No Way Home’ (2022) มารับบทนำให้บริการสตรีมไม่งของ Apple TV+ จะบอกว่าประสบผลสำเร็จได้ไม่เต็มปากก็ตามแต่ว่าใครกันแน่ได้มองก็จำต้องสารภาพว่าหนังมีความเริ่ดอยู่มากมาย แต่ทว่าการแปลความหมายนิยายให้เล่าสนุกสนานบางทีอาจไม่ค่อยได้ประสิทธิภาพที่ดีเท่าไรนัก กับหัวข้อนี้ก็เช่นเดียวกันเสมือนสองญาติพี่น้องรุสโซจะหาทางผ่านความเชยของตัวนิยายด้วยโปรดักชันเข้าว่าแทน

ตัวอย่างหนัง

แอ็คชั่น มัน สะใจ

The Gray Man ก่อนได้มองตั้งความหวังกับหัวข้อนี้ไว้พอเหมาะพอควร ตั้งความหวังตั้งแต่มองเห็นชื่อผู้กำกับ และก็เหล่าดาราหนังในเรื่องที่มีแต่ว่าคนที่ใครๆก็รู้จักๆทั้งหมด แต่ว่าเมื่อได้มองจริงๆเปลี่ยนไปเป็นว่าแอบผิดหวังบางส่วน เอาหล่ะ มาเริ่มรีวิวกันดีกว่า สิ่งแรกเลยเป็นเรื่องบท บทของหัวข้อนี้ปกติมากมาย มิได้มีอะไรสลับซับซ้อน พล็อตหลักเป็นไล่ล่ากันอีกทั้งเรื่อง ย้ำแอ็คชั่นหนักๆและก็เบาๆเฉลยคำตอบความเป็นจริงออกมาครั้งละนิดในกลางทาง แล้วก็เนื่องจากว่าบทมันไม่มีอะไรมากมาย เลยคิดว่ามิได้น่าติดตามอะไรเยอะมาก แต่ว่าก็ไม่ถึงกับน่ารำคาญครับผม มองได้เรื่อยเพลิดเพลินๆเพียงแค่หนังมองดารารวมทั้งฉากแอ็คชั่นก็คุ้มแล้ว ส่วนด้านการเดินเรื่อง

นับว่าทำเป็นดีอยู่ระดับหนึ่ง เล่าไว กระชับ เข้าใจง่าย พูดง่ายๆเป็นสูตรสำเร็จของหนังแอ็คชั่นฟอร์มยักษ์เลย  The Gray Man คนชอบดูหนังแอ็คชั่นคงจะหลงใหลประเด็นนี้ได้อย่างง่ายดายถัดมาด้านการแสดง อย่างที่บอกไปที่ผ่านมา ว่าหัวข้อนี้เต็มไปด้วยผู้แสดงมากมายความสามารถ แต่ว่าเปลี่ยนเป็นว่ามันแอบรู้สึกแปลกๆบางส่วน ดารานำชายอย่าง Ryan Gosling ก็แสดงเจริญนะ ฉากแอ็คชั่นก็หรูดี แต่ว่าส่วนตัวผมคิดว่าผู้แสดงมันไร้ซึ่งเสน่ห์ไปนิดหน่อย มิได้น่าจำมากแค่ไหน ส่วน Chris Evans ที่เล่นบทเป็นคนร้าย ผมก็เห็นว่ามันยังไม่ถึง เขามิได้มองร้ายหรือโรคทางจิตจนถึงน่าขนลุกอย่างที่คาดไว้ ส่วนตัวผมเห็นว่าตอนเขาแสดงเป็นตัวร้ายใน Knives Out (2019)

นั้นออกมาดีมากกว่าหัวข้อนี้ ในเวลานั้นมองมีเสน่มากยิ่งกว่ารวมทั้งน่าจำมากยิ่งกว่า The Gray Man  ประเด็นนี้เพียงแค่มองเป็นคนวิปลาสๆแต่ว่ามิได้มองน่าเคารพหรือน่าสยดสยองเท่าไร มาต่อกันที่ผู้ที่ผมถูกใจบ้าง โน่นเป็น Ana de Armas หัวข้อนี้คุณได้บู๊แบบจัดเต็มเลย ภายหลังที่คุณเคยโชว์ฉากแอ็คชั่นมาแล้วใน No Time to Die (2021) มาประเด็นนี้คุณมีบทมากยิ่งขึ้นมากมาย แล้วก็แสดงก้าวหน้าด้วย งามอย่างเดิม ส่วนคนอื่นที่เหลือก็แสดงก้าวหน้ากันทุกคน ในด้านการแสดงไม่มีอะไรจะติเตียนมากสักเท่าไรนัก โดยรวมเป็นทุกคนทำเป็นดีตามมาตรฐานทั่วๆไป ซึ่งโปรดักชันที่ว่าเพียงแค่ไล่เรียงมาก็เกือบจะเอาอยู่แบบไม่ต้องไปดูหนังจริงก็ทราบ อย่างการเอาผู้แสดงนำชายมากมายเสน่ห์ที่สมัยสองคนมาปะทะกันให้ผู้หญิงบ้าตายอีกทั้ง

The Gray Man ไรอัน กอสลิง (Ryan Gosling) ในบทมือสังหารเลขลำดับ 6 ที่จำเป็นต้องหนีการตามล่าจาก คริส อีแวนส์ (Chris Evans) ที่ปรับลุกขรึมจากกัปตันอเมริกามารับบท ลอยด์ แฮนเซน นักล่าหนวดจิ๋มปากเจ๋งกระทั่งประหลาดตา เอาว่าเพียงเท่านี้ก็จะต้องดูแล้วแต่ว่ายังไม่เพียงพอหนังยังมี อที่นา เดอ อาร์มาส (Ana de Armas) ที่ฮอตปรอทแตกจาก ‘No Time to Die’ (2021) มารับดอกไม้อย่างเดียวของหนังถึงจะมิได้โชว์น่ามองมากมายเท่าหนังก่อนหน้าของคุณ แม้กระนั้นบริเวณใบหน้างามๆของคุณก็ยังปฏิบัติงานก้าวหน้าสำหรับคนชอบดูหนังชายหนุ่มที่มิได้สิเนหาคู่นำชายรวมทั้งคนชอบดูหนังสมัย 90s

The Gray Man ก็ยังมิได้หงอยเหงาเพราะว่าผู้ผลิตก็ไปดึงศิลปินรุ่นใหญ่ที่มองไม่เห็นหน้าในหนังบล็อกบัสเตอร์แบบงี้นานแล้วนับจาก ‘Eagle Eye’ (2008) หรือบางทีอาจถึง ‘Armageddon’ (1998) เลยด้วยอย่าง ใบเสร็จรับเงินลี บ็อบ ธอร์นตัน (Billy Bob Thornton) มารับบทสมัยก่อนโค้ชของแผนการมือสังหารให้หายนึกถึงไม่เพียงพอหากหนังมองขายตะวันตกมากมายไป กลุ่มสร้างยังไปเชื้อเชิญ ธานัช (Dhanush) ผู้แสดงรวมทั้งนักร้องคนมีชื่อเสียงของบอลลีวูดมาหยั่งเชิงโกอินเตอร์คราวแรกกับหน้าที่มือสังหารชาวเอเชียที่มีฉากซูเปอร์ฮีโรแลนดิ้งอย่างเดียวในหนังอีกด้วยเป็นเอาอกเอาใจผู้ชมฝั่งทิศตะวันออกด้วย

Action is satisfying

The Gray Man before looking forward to this topic quite a bit hoped since seeing the director’s name And the movie stars in the story that everyone knows everyone. But when actually looking at it, it changed to be that I was secretly disappointed in some parts. Okay, let’s start the review. First things first, it’s about the script. The chapters on this topic are very normal. Nothing complicated The main plot is a chase for the whole story. Repeating the action hard and gently revealing the truth, bit by bit along the way And because the script doesn’t have much Therefore, I think that it is not very interesting to follow. But it’s not even annoying me. It’s worth watching and enjoying just watching the movie, staring at the stars and action scenes. The story part

Considered to be doing well at a certain level, telling the story quickly, concisely, easily understood, simply said, is a successful formula for a giant action movie. Action movie buffs will easily fall in love with this issue next to the acting side. as said in the past that this topic is full of talented actors But it turns out that it secretly feels strange in some parts. The leading man, Ryan Gosling, is doing well. The action scenes are gorgeous. But personally I think the actor is a little lacking in charm. Not very memorable as for Chris Evans, who plays the role of a villain. I saw that it hadn’t arrived yet. He didn’t have the ghastly malevolence or mental illness that he had expected. Personally, I saw that when he played the villain in Knives Out (2019).

It came out better than this topic. At the time, it looked more charming and more memorable. This one just looks ludicrous, but doesn’t look respectful or gruesome. Let’s move on to my favorite, that’s Ana de Armas. After you’ve shown action scenes in No Time to Die (2021), here you have a lot more roles. and showing progress as well, as before, and the rest of the others showing progress as well In terms of performance, there is nothing to complain about. Overall, everyone is doing well according to the general standards. which the productions that just sorted them out are almost able to handle without actually going to see the movie Like taking many male lead actors, the charms of which the two men collided to make the woman go crazy.

Ryan Gosling as assassin No. 6, who is forced to flee from Chris Evans, a darker Captain America adaptation, as Lloyd Hansen, the mustache hunter. Pussy lips are awesome even weird. Let’s just say that this will have to be seen, but that’s not enough. The movie still has Ana de Armas (Ana de Armas), who has broken mercury from ‘No Time to Die’ (2021) to receive flowers only. Of the movie, although it doesn’t show as much glam as your previous movies. But her pretty face works well for movie buffs, young men who aren’t dating male protagonists and 90s movie buffs.

The Gray Man I’m still not lonely because the producers have pulled big artists who haven’t seen the face in blockbuster movies like this for a long time since ‘Eagle Eye’ (2008) or maybe even ‘Armageddon’ (1998) at all, like Bill. Taking Billy Bob Thornton as the former coach of an assassination plot isn’t enough if the movie is too westernized. The production team also invited Bollywood actor and singer Dhanush to take his first international tour with an Asian assassin with only superhero landing scenes. In the movie as well, it’s the eastern side of the audience as well.

moviehd3