Thailand Only (2017) ไทยแลนด์โอนลี่

Thailand Only (2017) ไทยแลนด์โอนลี่

ดูหนัง Thailand Only (2017) ไทยแลนด์โอนลี่ “แจ๊ค” เกือบหมดไฟกับอาชีพที่ฝันมาตลอดชีวิต “เฮียลิ้ม” ขาใหญ่ธุรกิจทัวร์จีนก็ได้หยิบยื่นทางเดินโรยกลีบกุหลาบให้ แจ๊ค ได้เป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวเชิงอิสระ (ไกด์เถื่อน) อีกครั้ง งานนี้เขาจึงรวมตัวมือซ้าย มือขวา อย่าง “ไข่ย่น” เพื่อนซี้ผู้นิ่งเฉยต่อทุกสิ่งนอกจากผู้หญิงเอ็กซ์ๆ และ “ซิ่งหลง” พลขับเพื่อนรุ่นพ่อมาประกอบร่างสร้างบ.ทัวร์จำเป็น และปฏิญาณตนว่า จะทำทัวร์นี้ให้ดีจนโลกต้องจารึก

“ได้เพียงแค่เพียงพอขำ แม้กระนั้นยังไม่ปังอย่างที่คาด” เป็นข้อสรุปสั้นๆที่ผมให้สำหรับเพื่อการ รีวิวหนัง Thailand Only ไทยแลนด์ โอนลี่ ประเทศไทยอะไรก็ได้ ซึ่งใช้นักแสดงตลกร้อยล้าน อย่าง “แจ๊ส เชิญชื่น” เป็นตัวชูโรง ถ้าเกิดมองจากแบบอย่างหนัง มีความคิดว่าอาจมีฉากฮาๆบันเทิงใจๆเยอะแยะทีเดียว แต่ว่าต้องการกล่าวว่า ทั้งผองที่ฮาในแบบอย่างหนัง เป็นนำความฮาดูเหมือนจะทั้งหมดที่อยู่ในเรื่องมาให้ดูแล้ว ก่อนที่จะไปไกลขอเล่าย่อๆให้ฟังกันก่อน

ผู้แสดงนำชายของพวกเราเป็น “แจ็ค” (สวมบทโดย แจ๊ส เชิญชื่น) พึ่งออกมาจากเรือนจำมาในคดีฉ้อโกงนักเดินทาง ภายหลังติดตะรางไปยาวนานหลายปี เมื่อได้ช่องพ้นโทษออกมาก็เลยต้องการจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนดี ดำเนินการที่ซื่อสัตย์ ก็เลยไปพบพวกพ้องเก่า (รับบทบาทโดย น้าค่อม เชื้อเชิญชื่น แล้วก็ แน็ก ชาลี) อีกสองคนมาร่วมกันทำทัวร์ จนได้ไปรู้จักกับเจ้าพ่อรายหนึ่ง

ตัวอย่างหนัง

ที่จะเป็นนักลงทุนและก็ส่งทัวร์ชาวจีนมาให้ “แจ็ค” พาเที่ยวเมืองไทย แม้กระนั้นในที่สุดแจ็คโดนผู้ลงทุนทรยศ ทำให้ผู้นำทัวร์อย่าง “แจ็ค” จำต้องตกบันไดพลอยโจน ดูแลนักเดินทางกลุ่มนี้ไปแบบดิบๆสุกๆให้จบทัวร์แบบทุกคนแฮปปี้ให้ได้ ซึ่งในระหว่างการเดินทางก็มีสถานะการณ์สนุกสนาน ตื่นเต้น เพื่อ “แจ็ค” ขจัดปัญหาเป็นช่วงๆ จนกระทั่งท้ายที่สุดจากผู้นำทัวร์ “แจ็ค” และก็สหายๆ

เปลี่ยนไปเป็นผู้ต้องหาที่ตำรวจปรารถนาตัว ส่วนพวกเขาจะรอดเรือนจำหรือเปล่า และก็เรื่องราวจะจบลงแบบใด ชักชวนไปดูกันต่อในโรงฯ ได้เลยนะครับสำหรับคะแนนรีวิวในส่วนของตัวดารานำ ไม่ว่าจะเป็น แจ๊ส ชักชวนชื่น หรือ น้าค่อม ถึงแม้ว่าจะ โหน่ง ชะชะช่า (ซึ่งมีบทน้อยมาก) ผมว่ายังฮาเล็กน้อย เทียบกับผลงานที่ผ่านๆมาของพวกเขา ทำเป็นแค่เพียงขำๆในคอ ดูเหมือนกับว่าเริ่มจะหมดมุกกันแล้ว

ส่วน “แน็ก” ชาลี พระรัตนไตร นับว่าทำเป็นไม่ค่อยดีนักในหัวข้อนี้ อีกทั้งการพูดและก็การแสดงออกทางท่าทางมองไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเยอะแค่ไหน ฉะนั้นในส่วนของผู้แสดงนำฝ่าย ผมให้รวมๆที่ 8/10 สำหรับในส่วนของการเดินเรื่อง จำเป็นต้องกล่าวว่า ไปเรื่อยจนกระทั่งขึ้นพองและก็ไม่จบสิ้นมากมายในบางช่วง

จนกระทั่งเกือบจะหลับ ดังเช่นว่าฉากยืมรถบัส บางฉากก็ไม่รู้เรื่องและไม่รู้เรื่องว่าเพราะอะไรควรมี (ไปดูเองนะครับว่าฉากไหน) และก็บทภาพยนตร์ราวกับจะพากเพียรรวมทุกอย่างอันเอาไว้ในเรื่องเดียว ก็เลยออกมาเสมือนจะลังเลว่าจะขำ (ซึ่งก็ไม่ฮาสุด) หรือจะระทด + ซึ้ง (ซึ่งก็ไม่สุดอีกแบบเดียวกัน) ผมก็เลยขอให้คะแนนในส่วนนี้ที่ 6/10 ในส่วนของความฮา ความสนุก อย่างที่บอก

ผมบางทีก็อาจจะคาดหมายเยอะเกินไปเมื่อมองจากหนังตัวอย่าง แต่ว่าถึงเวลาจริงๆฉากที่ขำที่ฮาก็อยู่ในหนังตัวอย่างแทบหมดแล้ว เมื่อไปดูจริงๆก็เลยมิได้รู้สึกขำอะไรเยอะแยะ ทำเป็นเพียงแค่ยิ้มๆ กับฮาดังๆเพียงแค่ 1 ครั้ง ตลอดเรื่อง ในส่วนความสนุกสนานร่าเริงและก็ความฮา ผมให้ที่ 7/10

moviehd3